หน้าแรก » บ้านและสวน

บ้านและสวน

บ้านที่น่าอยู่มีลักษณะอย่างไร กับ 4 วิธีง่ายๆที่จะเปลี่ยนบ้านของคุณให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

คำว่าบ้านนั้นมีความหมายมากกว่าที่อยู่อาศัย หรือที่นอนพักผ่อนยามเหนื่อยล้า แต่หมายถึงความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัวด้วยเช่นเดียวกัน เพราะบ้านนั้นเป็นศูนย์รวมของครอบครัว ทั้งเด็ก หนุ่มสาว และคนชรา ดังนั้นการที่บ้านจะเป็นบ้านได้ จึงต้องมีลักษณะที่น่าอยู่อาศัย สะอาดสะอ้าน รวมไปถึงพฤติกรรมของคนในครอบครัวประกอบร่วมกัน เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดนี้มารวมกันอย่างสมบูรณ์ จึงจะสามารถเรียกว่า “บ้าน” ได้อย่างเต็มปาก และสำหรับวิธีการทำให้บ้านมีลักษณะที่น่าอยู่นั้น ทำได้ดังต่อไปนี้ครับ 1. ควรจัดหรือตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย ไม่รกรุงรัง หรือวางข้าวของทิ้งระเกะระกะ รวมไปถึงต้องจัดบ้านให้สามารถมีแดดส่องถึงได้ เพราะมีการวิจัยบางตัวเคยบอกว่า การที่บ้านมีลักษณะมืดๆทึบๆ นั้นไม่ชวนให้น่าอยู่เท่าไหร่นัก นอกจากนั้นห้องต่างๆ ภายในบ้านควรจัดให้มีความโปร่งสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้ไม่อับจนน่าอึดอัดนั่นเองครับ 2. หมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้สกปรกหรือรกรุงรัง เพราะความสะอาดนั้นมีผลต่อการอยู่อาศัยอย่างมาก ถึงแม้ท่านผู้อ่านก็คงไม่ชอบที่จะอยู่ในบ้านรกๆ ไม่เคยกวาดหรือถูพื้นสักเท่าไหร่หรอกใช่ไหมครับ ตามหลักแล้วเราจึงควรทำความสะอาดด้วยการกวาดบ้านวันละครั้งเป็นอย่างน้อย และหมั่นถูพื้น ปัดหยากไย่อยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์ จะช่วยให้บ้านดูน่าอยู่มากขึ้นครับ 3. จัดห้องต่างๆ รวมถึงของใช้เป็นหมวดหมู่อย่างเหมาะสม เช่น ห้องครัวก็จัดตู้หรือชั้นวางต่างๆ สำหรับวางจนและของใช้ในครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นต้องแยกเป็นสัดส่วน นอกจากนั้นหากบ้านของคุณมีเด็ก จะต้องแยกเป็นโซนของเด็กต่างหาก เพราะเด็กนั้นมักจะมีของเล่นต่างๆ มากมาย ดังนั้นการแยกส่วนจะทำให้บ้านดูน่าอยู่และไม่รกหูรกตานั่นเองครับ 4. มีบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ดี มีความปรองดองไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ที่จะช่วยส่งเสริมให้บ้านน่าอยู่ เพราะหากทุกคนในบ้านไม่ดูแลเอาใจใส่กัน หรือต่างคนต่างอยู่ …

อ่านต่อ »
น้ำแอร์หยดเกิดจากอะไร วิธีแก้ไขปัญหาน้ำแอร์รั่วไหลเบื้องต้นแบบง่ายๆ

น้ำแอร์หยดเกิดจากอะไร วิธีแก้ไขปัญหาน้ำแอร์รั่วไหลเบื้องต้นแบบง่ายๆ

ปัญหาน้ำแอร์หยดด้านในนี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยตามบ้านทั่วไป ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มักจะพาความรำคาญจากความเปียกชื้น และยังอาจทำให้เกิดอันตรายจากไฟรั่วได้อีก สาเหตุที่ทำให้น้ำแอร์หยดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน วันนี้เราจะมาแนะนำถึงสาเหตุและวิธีแก้ไข ในกรณีที่เกิดน้ำแอร์หยดครับ สาเหตุ เกิดจากถาดหรือท่อทิ้งน้ำนั้นตัน ทำให้น้ำที่เกิดจากกระบวนการฟอกอากาศ ไม่สามารถระบายออกไปได้ จึงล้นและไหลย้อนกลับมา กลายเป็นน้ำที่หยดซึมมาจากตัวแอร์ในที่สุด ถาดคอยล์ด้านหลังของแผงคีบแอร์นั้นเกิดตัน และทำให้เกิดมีหยดน้ำเกาะอยู่นอกตัวแอร์ ถาดน้ำทิ้งเกิดการชำรุด เช่นหลุด หรือแตก การเดินท่อภายในของช่างนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้หุ้มท่อไม่ได้มาตรฐาน และเกิดหยดน้ำเกาะรอบๆ ตัวจนหยดออกมานอกตัวแอร์ได้ในที่สุด วิธีแก้ไข ควรทำความสะอาดโยการใช้โบลเวอร์ (Blower) หรือเครื่องเป่าไฟฟ้า ไล่น้ำออกให้แห้ง โดยบริเวณที่เน้นมากๆ คือท่อน้ำทิ้งและบริเวณปลายท่อ แก้ไขโดยการล้างแอร์ ซึ่งหากผู้ใช้งานมีความชำนาญก็สามารถถอดส่วนประกอบ หรือท่อแอร์ออกมาล้างได้เลย หรือหากไม่มีความชำนาญ สามารถเรียกช่างแอร์มาล้างก็ได้ครับ หากแอร์นั้นมีความสกปรกมาก เช่นฝุ่นหรือมีคราบสกปรกไปเกาะอยู่จำนวนมาก เครื่องจะระบายความเย็นออกมาไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำแข็งจับและกลายเป็นหยดน้ำออกมานอกเครื่องได้ในที่สุด กรณีนี้ควรติดต่อเรียกช่างแอร์จะดีกว่าครับ เพราะต้องทำการรื้อเครื่องดูจุดที่สกปรกซึ่งอยู่ภายในเครื่องแอร์นั่นเอง อีกสาเหตุที่พบได้บ่อยคือน้ำยาแอร์มีน้อยจนเกินไป หรืออาจเกิดจากการรั่วซึมของน้ำยา ควรติดต่อช่างแอร์โดยด่วน เพราะน้ำยาแอร์นี้เป็นส่วนที่สำคัญต่อการเกิดความเย็น ถ้าหากมีน้อยเกินไปจะทำให้ตัวแอร์นั้นปรับอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจทำให้เครื่องรวนหรือพังไปเลยก็ได้ ตรวจดูว่าภายในเครื่องมีสัตว์จำพวกหนู หรือแมลงเข้าไปอาศัยหรือตายติดอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งสัตว์จำพวกนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการอุดตันของท่อแอร์ภายในเครื่องได้ ตรวจดูถาดน้ำทิ้ง หากพบว่าเลื่อน หรือเคลื่อน ควรทำการแก้ไขให้อยู่ในสภาพเดิม การแก้ปัญหาน้ำแอร์หยดนั้น ทางที่ดีควรติดต่อเรียกช่างแอร์ หรือคนที่มีความชำนาญจะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องของทางเทคนิค และเครื่องแอร์นั้นก็มีความซับซ้อนมาก หากไม่ชำนาญหรือไม่เคยรื้อเครื่องมาก่อน อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ครับ

อ่านต่อ »

ดัดแปลง ต่อเติมบ้านอย่างไรให้ถูกกฎหมายควบคุมอาคาร

เมื่อเราอาศัยอยู่ในบ้านสักระยะหนึ่งแล้วนั้น ก็มักจะมีการต่อเติมเสริมแต่ในส่วนต่างๆ ของบ้านนั้น เพื่อให้เข้ากับลักษณะการใช้ชีวิตของเราให้มากที่สุด เช่น บ้านบางหลังอาจจะอยากต่อเติมครัว บ้านบางหลังอยากต่อเติมโรงรถ ซึ่งก็สามารถทำได้ครับ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักกฎหมายการต่อเติมบ้าน ประกอบไปด้วยอะไรนั้น เราไปดูกันครับ 1. หากต้องการเปลี่ยนโครงสร้างอาคารโดยที่โครงสร้างนั้นไม่ใช่เหล็ก ปูนหรือคอนกรีต ก็สามารถทำได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการดัดแปลง เช่น ต้องการเปลี่ยนหรือสร้างส่วนใดส่วนหนึ่งในบ้านใหม่ อาจจะเกิดจากสาเหตุเพราะปลวกขึ้น หรือเกิดการเสียหายชำรุดอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าต้องการต่อเติมหรือดัดแปลงบ้าน โดยมีการใช้ เหล็ก ปูน คอนกรีต เหล่านี้จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนะครับ 2. หากต้องการเพิ่ม หรือเติมแต่งส่วนต่างๆ ที่ไม่ใช่โครงสร้างหลักของตัวบ้าน (เช่น ต้องการเปลี่ยนพื้นกระเบื้องธรรมดาเป็นกระเบื้องหินอ่อน หรือหินแกรนิต เป็นต้น) หากเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักไม่เกินร้อยละสิบไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่ถ้าเกินนั้นต้องแจ้ง ซึ่งน้ำหนักตรงนี้เราไม่สามารถคำนวณได้เองต้องอาศัยวิศวกรในการคำนวณนะครับ 3. หากต้องการเพิ่ม หรือเติมแต่งส่วนต่างๆ ของบ้านขึ้นมา โดยส่วนที่เติมแต่งนั้นไม่ใช่โครงสร้างหลักของตัวบ้าน (เช่น เติมโรงรถ โรงครัว เป็นต้น) และไม่มีน้ำหนักเกินร้อยละสิบของน้ำหนักของบ้านทั้งหมด อย่างนี้ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าพนักงานครับ แต่ถ้าเกินนั้นจำเป็นต้องยื่นเรื่องตามระเบียบ 4. หากต้องการเพิ่มหรือลดพื้นที่ของตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นชั้นใดก็ตาม และพื้นที่จะเพิ่มหรือลดนั้นมีพื้นที่รวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร ไม่ต้องขออนุญาตไปที่เจ้าหน้าที่ (โดยต้องไม่เพิ่มเสาหรือคานนะครับ) สามารถจัดการต่อเติมได้เลย 5. การเพิ่มหรือลดขนาดพื้นที่ของหลังคา …

อ่านต่อ »

วิธีการซักแห้งเสื้อผ้า มีขั้นตอนการทำอย่างไร

ผ้าบางชนิดนั้นเป็นผ้าที่ต้องการดูแลรักษาเป็นพิเศษ เพราะมีใยผ้าที่บอบบาง และไม่สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีการซักในน้ำแบบธรรมดาทั่วไปได้ ดังนั้น จึงมีวิธีการทำความสะอาดที่เรียกกันว่าซักแห้ง ซึ่งเป็นวิธีการที่มนุษย์ค้นพบตั้งแต่สมัยโรมัน โดยคนในสมัยนั้นมักจะใช้แอมโมเนียที่ได้จากปัสสาวะ ทำการซักทำความสะอาดเสื้อคลุมขนแกะ และความรู้เรื่องการซักแห้งในปัจจุบันก็ใช้หลักการเดียวกัน คือ ใช้น้ำมันเป็นตัวทำละลายในการกำจัดคราบสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนเนื้อผ้า เนื่องจากน้ำมันไม่ได้แทรกซึมลงในเนื้อผ้าเหมือนน้ำ ทำให้เนื้อผ้าหรือใยผ้าไม่ได้รับความเสียหายเหมือนผ้าที่ซักในน้ำ เป็นการยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าได้อีกด้วย เราลองมาดูวิธีการซักแห้งเสื้อผ้ากันค่ะ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง 1. ใช้น้ำยาซักแห้งแบบพิเศษ เป็นตัวทำละลายไขมัน และคราบสกปรกบนเนื้อผ้า ที่เป็นที่รู้จักกันก็น้ำยาเปอร์คลอโรเอทิลีน (Perchloroethylene) ซึ่งมีฤทธิ์ในการกำจัดคราบสกปรกบนเนื้อผ้าโดยที่ไม่ทำให้ใยผ้าเสียหาย หรือตัวเสื้อผ้าเกิดการเสียรูปทรง ไม่มีการพองตัว หรือหดตัวของเสื้อผ้า 2. ใช้น้ำยาซักแห้ง(อีกประเภท) ซึ่งวิธีการนี้แตกต่างจากวิธีการแรก ตรงที่ต้องซักผ้าในน้ำสะอาดก่อน (การซักนั้นให้ซักไปเลยห้ามแช่โดยเด็ดขาด) จากนั้นฉีดพ่นด้วยน้ำยาซักแห้งประเภทนี้ให้ทั่วบริเวณ เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือถ้าเป็นผ้าไหมให้ฉีดน้ำยาอัดกลีบลงไปด้วย จากนั้นนำเสื้อผ้าไปใส่ในช่อง Freeze ของตู้เย็น (ไม่ควรมีกลิ่น) ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วให้นำออกมารีดทับด้วยเตารีด ใช้ความแรงที่เหมาะสมกับผ้านั้นๆ วิธีนี้เป็นที่นิยมสำหรับร้านซักรีดมากค่ะ เพราะไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมากมาย 3. ใช้เครื่องซักแห้งปัจจุบันมีเครื่องซักผ้า ด้วยวิธีการซักแห้งออกมาขายแล้ว ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป หลักการของเครื่องซักแห้งคือการใช้สารทำละลายประเภทซิลิโคน (Silicone) หรือไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon) ข้อดีคือสะดวกเพราะเครื่องประเภทนี้มักจะมีวิธีการซักที่ถนอมเนื้อผ้า แต่ข้อเสียก็คือราคาแพงมาก เหมาะสำหรับใช้ในร้านซักรีด หรือโรงแรมที่มีบริการซักรีดมากกว่า จะเห็นได้ว่า วิธีการซักแห้งนั้นจะค่อนข้างยุ่งยากอยู่พอสมควร …

อ่านต่อ »

พิธีขึ้นบ้านใหม่ ย้ายเข้าบ้านใหม่วันแรกต้องทำอย่างไร เตรียมอะไรบ้าง

การเตรียมตัวเพื่อเข้าหรือขึ้นบ้านใหม่นั้นเป็นความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข และเป็นการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ความเชื่อเช่นนี้ได้ตกทอดมาถึงยุคปัจจุบันเช่นกันเพียงแต่พิธีการต่างๆ นั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือตัดทอนลงไปบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีหรือพิธีการเข้าหรือขึ้นบ้านใหม่นั้นมาบอกกล่าวกันค่ะ 1. เริ่มจากการจัดเตรียมข้าวของต่างๆ ได้แก่ พระพุทธรูป ดอกไม้ธูปเทียน ไม้มงคลต่างๆ รวมไปถึงพวกผลไม้สำหรับไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เช่น กล้วย มะพร้าว สาลี่ ทับทิม ส้ม หรืออาจจะมีขนมไทยอย่างทองหยิบ ทองหยอด ทองเอก หรือขนมอื่นๆ ที่มีชื่อเป็นมงคล ด้วยความเชื่อที่ว่า “ทอง” หมายถึง ความร่ำรวย ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะสุขสบายและอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข 2. เมื่อจัดเตรียมข้าวของต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้หาคนที่มีอาวุโสสูงสุด(ผู้ชาย) ทำการถือพระพุทธรูป เดินเข้าบ้านก่อนทั้งนี้มีความเชื่อว่า ให้พระนำหน้าจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข จากนั้นให้ผู้อยู่อาศัยเดินตามผู้นำ แล้วให้นำพระพุทธรูปไปประดิษฐานยังห้องพระที่จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ (ควรจัดเตรียมไว้ก่อน โดยห้องพระนั้นควรอยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ) 3. นำผลไม้ 5 อย่างที่เตรียมไว้แล้ว พร้อมกับน้ำสะอาด ธูปเทียน จุดบูชาคุณพระศรีรัตนตรัย เพื่อเป็นการเคารพนบนอบและอธิษฐานให้บ้านที่เราอยู่นี้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข 4. นำผลไม้ 5 อย่างที่เตรียมไว้ พร้อมกับอาหารสำรับคาวหวาน น้ำสะอาด ธูปเทียน ส่วนนี้จะเป็นการไหว้และบอกกล่าวเจ้าที่ ว่าเราเข้ามาอยู่ใหม่ ขอให้ดลบันดาลความสำเร็จ ความสงบร่มเย็นเป็นสุข ความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนปกปักษ์รักษาสมาชิกภายในบ้าน …

อ่านต่อ »