หน้าแรก » ร่างกายของเรา

ร่างกายของเรา

5 วิธีรักษาตาปลาด้วยตัวเองอย่างง่ายๆตามสูตรภูมิปัญญาชาวบ้าน

ในการดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบันนั้น คงมีไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอาการเป็นตุ่มนูนขึ้นมาลักษณะคล้ายดวงตาของปลา เกิดจากการที่มีการเสียดสีหรือกระทบถูกผิวหนังบริเวณนั้นบ่อยๆ หรือเป็นประจำ มักจะพบมากในผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดที่บริเวณเท้า เพราะผิวหนังส่วนเท้านั้นมีการเสียดสีอยู่กับรองเท้าแทบจะตลอดเวลา ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการเจ็บปวดที่บริเวณตาปลานั้นอย่างมาก และส่งผลทำให้เดินไม่สะดวก ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีการรักษาเจ้าตาปลาแบบง่ายๆ และสามารถทำได้เองมาฝากกันค่ะ 1. ใช้กระเทียมสด ฝานเป็นชิ้นหนาๆ แล้วนำไปทาที่บริเวณตาปลา หรือจะพันผ้าทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ ซึ่งสารบางอย่างในกระเทียมนั้นสามารถช่วยรักษาและฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในตาปลาของคุณได้ แต่ต้องทำเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่ชอบกลิ่นที่ฉุนเฉียวของกระเทียมจะเปลี่ยนมาใช้มะนาวหรือสับประรดแทนก็ได้ค่ะ 2. น้ำมันสน ใช้น้ำมันสนชุบกับผ้าสะอาดหรือผ้าพันแผล แล้วนำไปลูบทาที่บริเวณตาปลา หรือจะใช้วิธีการพันทับไว้กับแผลทิ้งไว้ค้างคืนประมาณ 4-5 วันติดต่อกัน สารจากน้ำมันสนจะช่วยให้หายเร็วขึ้น วิธีการนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถรักษาอาการตาปลาได้อย่างชะงัด และมีประสิทธิภาพ 3. หาน้ำมันมะพร้าว น้ำมันการบูร น้ำมันสน มาผสมกันให้เข้ากันโดยใช้สัดส่วนดังนี้ น้ำมันมะพราว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันการบูร 2 ช้อนโต๊ะและน้ำมันสน 1 ช้อนโต๊ะมาผสม และกวนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพอกหรือทาที่บริเวณที่เป็นตาปลา จากนั้นแผลจะค่อยๆ หายไปเองค่ะ 4. แช่เท้าข้างที่เป็นตาปลาลงในน้ำอุ่นสักพัก แล้วใช้หินขัดส่วนที่เป็นตุ่มเนื้อแข็งๆ ออก หรือจะใช้ของมีคม เช่น มีดขูดออกก็ได้ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง หากขูดถูกส่วนตาปลาจะหลุดออกมา และหลังจากส่วนหนังแข็งๆ …

อ่านต่อ »
10 วิธีเลิกสูบบุหรี่ด้วยตนเอง แบบง่ายๆ ไม่ว่าใครก็เลิกได้

10 วิธีเลิกสูบบุหรี่ด้วยตนเองอย่างง่ายๆ ไม่ว่าใครก็เลิกได้

เพื่อนๆ คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดที่ให้โทษต่อตัวของผู้สูบบุหรี่เอง และผู้ที่อยู่รอบข้าง การสูบบุหรี่นั้นจะส่งผลต่อร่างกายของเรา เช่น โรคมะเร็งปอด โรคกระดูกพรุน แล้วยังส่งผลต่อสุขภาพทางช่องปากและผิวพรรณ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงและวัยรุ่น การสูบบุหรี่จะทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่น ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ง่าย บุหรี่นั้น มีโทษมากมาย แต่ก็ยังมีนักสูบเพิ่มมากขึ้น สาเหตุของการสูบบุหรี่เกิดจากความคึกคะนอง ความอยากรู้อยากลอง แม้แต่การสูบเพื่อเข้าสังคม การสูบตามอย่างคนรอบข้าง หรือเพื่อแสดงความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็มีบางส่วนที่คิดได้และอยากที่จะเลิก ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะวันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีเลิกสูบบุหรี่อย่างง่ายๆกันค่ะ 1. เริ่มจากตัวเราก่อนเลย คือ พยายามลดปริมาณการสูบให้น้อยลง แรกๆ อาจจะรู้สึกอยากบุหรี่ ดังนั้นให้เราหาลูกอม หรือหมากฝรั่งที่มีสารนิโคตินมาเคี้ยวแทน 2. ต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่า จะสามารถเลิกบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด อย่าลังเลที่จะเลิกบุหรี่ ให้ตั้งเป้าหมายและระยะเวลาที่แน่นอน เพื่อเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดความพยายาม 3. หาที่ปรึกษา เพื่อช่วยให้คำแนะนำวิธีเลิกบุหรี่ที่ถูกต้อง หรือบอกคนรอบข้างเพื่อให้เขาทราบ เพราะการเลิกบุหรี่นั้น ต้องการกำลังใจ และความเข้าใจ เพื่อจะได้ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้เร็วตามที่ตั้งใจไว้ 4. หากิจกรรมอื่นๆทำ ไม่ว่าจะเล่นกีฬา เล่นดนตรี ทำงานบ้าน หรือพูดคุยกับคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ตัวเราไม่หมกมุ่น หรือกังวลกับการเลิกบุหรี่ แล้วยังช่วยให้คลายความเครียด สมองปลอดโปร่ง และมีสุขภาพที่ดี 5. ออกห่างจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ด้วยความเคยชิน อาจทำให้เรากลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ …

อ่านต่อ »
วิธีกําจัดริ้วรอยตีนกาบนใบหน้า ร่องรอยก่อนวัยเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

วิธีกำจัดริ้วรอยตีนกาบนใบหน้า ร่องรอยก่อนวัยเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

ริ้วรอยบนในหน้ามักเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องกังวล โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดขึ้นก่อนวัยอันควร อย่าง “ตีนกา” สาว ๆ หลายคน คงไม่อยากได้ยินคำนี้ แล้วทำไม..เจ้าตีนกาจึงต้องมาทำลายผิวหน้าของเราด้วยนะ ในปัจจุบันสาวยุคใหม่จะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ทำให้มีเวลาในการดูแลตัวเองลดน้อยลง แถมยังต้องเจอสภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ อย่างฝุ่นควัน และแสงแดด บวกกับสภาพจิตใจ อย่างภาวะความเครียด ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว สาวๆ ลองมาสำรวจตัวเองกันดีกว่า ว่าพฤติกรรมอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดริ้วรอยตีนกากันบ้าง 1. การแสดงสีหน้าต่างๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ การร้องไห้ รวมถึงเมื่อเกิดความเครียดเรามักจะคิ้วขมวด อาการเหล่านี้เมื่อกระทำบ่อยๆ จะทำให้เกิดริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ได้ง่าย 2. การสูบบุหรี่ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อปอดแล้ว ยังมีผลให้เลือดส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ผิวหน้าได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้ผิวหน้าของเราเหี่ยวย่น การสูบบุหรี่นอกจากจะส่งผลเสียต่อตนเองแล้ว ยังส่งผลต่อคนรอบข้างด้วยนะคะ 3. พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายของเราก็ต้องการการพักผ่อน เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น และยังช่วยให้เซลล์ผิวได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สาวๆจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนที่เพียงพอนั้นนอกจากจะช่วยลดปัญหาเรื่องริ้วรอยตีนกาแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวพรรณของเราดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้นได้อีกด้วย 4. การขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดริ้วรอยตีนกาได้ ในช่วงแรกๆ จะเกิดริ้วรอยแบบตื้นๆ บนใบหน้า เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าริ้วรอยผิวที่ปลอบช้ำจึงทำให้เกิดตีนกาอย่างถาวร …

อ่านต่อ »
8 วิธีแก้ปัญหาฟันเหลือง ทำอย่างไรให้ฟันขาวดั่งใจ ด้วยวิธีฟอกแบบธรรมชาติ

8 วิธีแก้ปัญหาฟันเหลือง ทำอย่างไรให้ฟันขาวดั่งใจ ด้วยวิธีฟอกแบบธรรมชาติ

ฟันของมนุษย์นั้นเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง มักจะค่อยๆ เหลืองลงเรื่อยๆไม่ขาวเหมือนเดิม ทั้งนี้เพราะต้องสัมผัสกับอาหารรูปแบบต่างๆ ที่มนุษย์กินอยู่ทุกวันนั่นเอง ซึ่งเจ้าอาหารบางชนิดก็มีสารที่คอยทำลายเคลือบฟันอยู่ด้วย หรือบางครั้งอาหารบางจำพวกก็มักจะทิ้งคราบหลงเหลือไว้บนฟันของเราได้เช่นกัน เมื่อมันเกาะตัวหนามากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้ฟันของเราเหลืองลงได้เรื่อยๆ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีคำแนะนำดีๆ ในการช่วยให้ฟันที่เหลืองดูไม่สวยของเรานั้น กลับมาขาวแวววาวได้เหมือนเดิมกันค่ะ 1. รับประทานผักผลไม้บางจำพวกที่ต้องเคี้ยว เช่น แอปเปิ้ล ซึ่งมีสารขัดฟันอยู่ในตัว และผักบางชนิด เช่น แครอท ก็มีเนื้อแข็ง ขณะที่กำลังเคี้ยว เนื้อของผลไม้ชนิดนี้ก็จะช่วยไปขัดคราบเหลืองๆ บนฟันออกได้ วิธีนี้เป็นวิธีดั้งเดิมที่เคยใช้ได้ผลบ้าง แต่ข้อเสียคือไม่สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างถาวร 2. ใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการขัดฟัน เช่นเกลือ มะนาว ใบข่อย เปลือกกล้วย เหล่านี้มีสารในการขจัดคราบสกปรกบนฟัน สามารถช่วยให้คราบฟันนั้นหลุดออกไปได้ เพียงแต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องและไม่ควรขัดฟันแรงเกินไปนัก เพราะอาจจะทำให้เคลือบฟันเกิดความเสียหายได้ 3. ขูดหินปูน ทุกๆ 6 เดือน บางครั้งคราบเหลืองๆ ของฟันนั้นเกิดมาจากหินปูนที่สะสมอยู่มาก ดังนั้นก่อนอื่นเลยคงต้องทำการกำจัดเจ้าหินปูนนี้ออกไปให้หมดเสียก่อน 4. ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกฟัน ส่วนใหญ่มักมาในรูปของยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของ สารฟอกฟันซึ่งจะช่วยทำให้ฟันของคุณขาวกระจ่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ข้อแนะนำก็คือก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรด (Potassium Nitrate) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ก็เพราะมันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันของคุณ ไม่ทำให้เปราะบางจนเกินไป 5. ใช้น้ำมะนาว เพราะน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด และคุณสมบัติที่เหมือนสารฟอกขาวนี้เอง …

อ่านต่อ »
5 วิธีรักษาจุดด่างดําบนใบหน้าที่เกิดจากสิว ขจัดรอยด่างดำด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ

5 วิธีรักษาจุดด่างดำบนใบหน้าที่เกิดจากสิว ขจัดรอยด่างดำด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ

สิวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะหากมันขึ้นมาที่ใบหน้า เพราะนอกจากมันจะทำให้ใบหน้าของเราดูไม่สะอาด ไม่สบายตาเท่าที่ควรจะเป็นแล้ว ยังส่งผลให้เกิดหลุม หรือจุดด่างดำขึ้นมาบนใบหน้าของเราได้อีก ทั้งนี้เจ้าจุดด่างดำที่ว่านี้ยิ่งเลวร้ายกว่าสิวอีกค่ะ เพราะมันทำให้ใบหน้าสวยๆ ของเราดูหมองคล้ำไม่น่ามอง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเจ้าสิวจอมวายร้ายเลย ดังนั้นวันนี้ เราจึงมีวิธีแก้ไม่ให้ใบหน้าเป็นจุดด่างดำจากสิวแบบง่ายๆมาฝากกันค่ะ 1. มะนาว เป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามบ้านค่ะ และเจ้ามะนาวนี่ก็มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ (AHA, Alpha Hydroxy Acids) ซึ่งมีช่วยในการลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดร่วงออกไป นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้เซลล์ผิวเกิดใหม่นั้นสามารถผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้วได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 สัปดาห์ค่ะ วิธีใช้ก็แค่ผสมมะนาวกับโฟมล้างหน้า หรือจะใช้โฟมล้างหน้าประเภทที่มีมะนาวเป็นส่วนประกอบก็ได้เช่นกัน 2. ขมิ้นชัน เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการกำจัดเซลล์ผิวเสียที่ตายแล้วค่ะ นอกจากนั้นยังช่วยหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย วิธีการใช้งานก็แค่หาขมิ้นชันแบบผงที่ขายกันอยู่ทั่วไปตามตลาด หรือห้างสรรพสินค้า นำมาผสมกับโยเกิร์ตและน้ำมะนาว แล้วนำมาแตะแต้มที่สิวก่อนนอนประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้นจะรู้สึกได้ถึงความเกลี้ยงเกลาของใบหน้า และรูขุมขนกระชับขึ้น สุดยอดไปเลย 3. หอมแดง ในหอมแดงจะมีสารที่มีคุณสมบัติสามารถยับยั้งแบคทีเรียบนผิวหนังได้ วิธีทำก็ง่ายๆ เพียงแค่นำหอมแดงมาปอกเปลือกให้เกลี้ยงและล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาฝานเป็นแผ่นบางๆหรือจะสับให้ละเอียดก็ได้ เสร็จแล้วนำมาโปะไว้บนจุดที่เป็นสิวหรือมีรอยด่างดำ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก ทำทุกวัน 3-4 วันจะเห็นว่าหัวสิวค่อยๆยุบตัวลง ส่วนรอยด่างดำก็จะดูจางลงอย่างเห็นผลได้ชัด 4. ล้างหน้าด้วยสบู่สมุนไพรต่างๆ ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด เช่นสบู่ขิง สบู่มังคุด สบู่ว่านหางจรเข้า …

อ่านต่อ »