หน้าแรก » ร่างกายของเรา (page 6)

ร่างกายของเรา

วิธีขัดผิวง่ายๆสำหรับผู้เริ่มต้น สูตรขัดผิวขาวด้วยตัวเอง ประหยัดและปลอดภัย

วิธีขัดผิวง่ายๆสำหรับผู้เริ่มต้น สูตรขัดผิวขาวด้วยตัวเอง ประหยัดและปลอดภัย

การมีผิวพรรณที่ดี ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลว่าสามารถที่จะดูแลได้อย่างไร โดยสำหรับในเรื่องของการดูแลก็คือ การที่จะต้องรู้จักดูแลให้ครอบคลุม ไม่ใช่เพียงแค่อาหารที่บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณเองก็สำคัญ แต่แน่นอนว่าก่อนการที่จะบำรุงผิวพรรณ การขัดผิวก็เพื่อที่จะทำลายและกำจัดเซลล์ผิวเก่าๆออกไป และเพื่อสามารถที่จะบำรุงผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นแล้วเพื่อทางออกที่ดีที่สุด สำหรับวิธีขัดผิวก็มีขั้นตอนเบื้องต้นอย่างง่ายๆ ดังนี้ ขัดผิวด้วยสมุนไพรไทย สำหรับสมุนไพรไทยมีมากมาย แต่มีความพิเศษที่นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพแล้วนั้นยังสามารถที่จะนำมาดัดแปลงเพื่อที่จะใช้ โดยถ้าหากว่าจะให้พูดถึงสมุนไพรที่ได้รับความนิยมเลยนั้น คือ มะขามเปียก โดยถือเป็นสูตรที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งสามารถที่จะนำมาผสมกับส่วนผสมอื่นๆได้ง่ายๆ และหลังจากที่ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกทิ้งไว้และล้างด้วยน้ำเปล่า ทำเพียง 1-2ครั้งต่ออาทิตย์ รับรองว่ามีผิวที่ขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างแน่นอน ขัดผิวด้วยของใกล้ตัว สำหรับของใกล้ตัวที่ว่านั่นก็คือ กากกาแฟ ซึ่งสำหรับปัจจุบันสามารถที่จะหาได้ง่ายเป็นอย่างมาก โดยใช้เพียงแค่ปริมาณ 1 ถ้วยตวงมาผสมน้ำ และอาจจะมีการนำไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น ขมิ้น มะขามเปียก แล้วน้ำมาคั้น และขัดผิวอีกที ก็สามารถที่จะช่วยบำรุงผิวได้เช่นกัน อุปกรณ์ขัดผิว สำหรับสูตรก็ทราบไปแล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับในเรื่องของอุปกรณ์ที่จะมาเป็นตัวช่วยที่สำคัญด้วยเช่นกัน โดยรวมไปถึงวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ถูกนำมาแปรรูปเพื่อที่จะใช้ในการขจัดเซลล์ผิว และสำหรับอุปกรณ์ขัดผิวอื่นๆก็มีมากมาย ทั้งหินขัด ใยบวบ ถุงมือขัดผิว ซึ่งสำหรับแต่ละอย่างนั้นก็จะมีการนำวัตถุดิบในการผลิตที่แตกต่างกัน ดังนั้นในส่วนนี้นั้นก็จำเป็นที่จะต้องเลือกให้ดีนั่นเอง วิธีการขัดผิว สำหรับการขัดผิว หลายๆคนมักจะคิดว่าแค่เอามาชโลมตัวแล้วขัดคือจบ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นแม้แต่น้อย เพราะในการที่จะขัดผิวให้ได้ผล จะต้องทำอย่างมีขั้นตอน ดังนี้ ทำความสะอาดร่างกาย เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ติดตามร่างกายเราอยู่ และช่วยให้การขัดผิวเข้าถึงเซลล์ผิวได้ง่ายขึ้น ค่อยๆขัดผิวแบบวนไปวนมาอย่างเบาๆ …

อ่านต่อ »

8 ขั้นตอน วิธีรักษาและปฐมพยาบาลอาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงในเบื้องต้น

อาการข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงนั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในระหว่างการเดินหรือวิ่งในพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบ และเมื่อเกิดข้อเท้าพลิกขึ้นมาแล้วนั้น อาจส่งผลเสียต่ออวัยวะส่วนนั้น เช่น กระดูกอ่อน หรือเส้นเอ็นได้ไม่ยาก หากไม่รู้จักวิธีรักษาพยาบาลที่ถูกหลัก ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำถึงวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับผู้ป่วยที่มีอาการข้อเท้าพลิก ก่อนนำส่งถึงมือหมอกันครับ 1. อย่างแรกเลยห้ามให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวบริเวณที่เกิดการพลิกโดยเด็ดขาดเพราะ อาจมีส่วนของกระดูกแตกเกิดขึ้นได้ ดังนั้นให้หาไม้มาวางประคบแล้วใช้เชือกพันเป็นเฝือก และหากจำเป็นต้องมีการเคลื่อนที่ควรใช้เปล หรือไม้เท้าขณะเดิน 2. หากอาการไม่หนักมากให้ใช้น้ำแข็งหรือผ้าเย็นประคบบริเวณที่เกิดการพลิก โดยประคบครั้งละ 20-30 นาที เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนช้าลง เพราะ ความเย็นจากน้ำแข็งและผ้าเย็นนั้นจะไปทำให้เลือดหดตัว และมีการไหลเวียนไม่สะดวก ช่วยลดอาการปวดบวมลงได้นั่นเอง 3. ห้ามใช้ยาหม่อง ครีมนวด หรือน้ำมันมวยเป็นอันขาด เพราะตัวยาจะทำให้เกิดการกระตุ้นโลหิตให้ไหลเวียน และเป็นการเพิ่มอาการบวมให้มากขึ้น นอกจากนั้นตัวยายังมีฤทธิ์แสบร้อน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บบริเวณที่พลิกมากขึ้นด้วย 4. อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำสำหรับการลดการบวมคือ ใช้ผ้าพันบริเวณที่พลิก แต่ผ้าที่พันควรเป็นผ้ายืดและไม่พันแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เลือดไปคั่งอยู่บริเวณปลายเท้า และบวมหนักขึ้นกว่าเดิม 5. ยกเท้าให้สูงเข้าไว้ หรือหาเก้าอี้มาหนุนขาให้สูงขึ้น เพื่อลดอัตราการหล่อเลี้ยงของเลือดไม่ให้เข้าไปยังบริเวณที่บวมได้สะดวก ขณะที่ผู้ป่วยนอนก็ควรหาหมอนหรือท่อนไม้มาหนุนขาข้างที่มีอาการให้สูงกว่าระดับหัวใจ 6. หากผู้ป่วยมีอาการปวดมาก สามารถให้รับประทานยาแก้ปวดได้ แต่ไม่ควรให้รับประทานมาก หรือติดต่อกัน 7. หากผู้ป่วยพ้นระยะ 48 ชั่วโมงไปแล้วให้ใช้วิธีใช้ถุงน้ำร้อนประคบ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต หรืออาจใช้สลับกับการประคบเย็นด้วยก็ได้ 8. หากมีอาการปวดหรือบวมมาก …

อ่านต่อ »

5 วิธีแก้ ก้างปลาติดคอควรทำยังไงดีเมื่อเจอปัญหานี้

เชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านก็คงเคยเป็นกันนะครับ กับอาการก้างปลาไปทิ่มค้างอยู่ภายในลำคอ อันเนื่องมาจากรับประทานอาหารประเภทปลา โดยเฉพาะปลาหลายๆชนิดที่มีก้างฝอยแหลมเล็กๆ แทรกอยู่ตามเนื้อ ซึ่งมันจะส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง หรืออาการเจ็บๆแสบๆ เกิดขึ้นหากว่ามันทิ่มลงในบริเวณลำคอที่เป็นเนื้ออ่อน ก้างปลาเหล่านี้บางครั้งก็หลุดออกไปได้เอง แต่ก็มีบางครั้งที่มันไม่ยอมหลุดออกไป และก่อให้เกิดความรำคาญขึ้นจนหมดอารมณ์กินอาหารต่อเลยก็มีครับ แน่นอนว่าการแก้ปัญหานั้น คงจะใช้มือหยิบออกมาเฉยๆ เหมือนบาดแผลภายนอกไม่ได้แน่เพราะในลำคอนั้นเป็นส่วนลึกของร่างกาย และมีอวัยวะสำคัญต่างๆ อยู่มากมาย ดังนั้นจึงมีผู้คิดค้นวิธีแก้ปัญหาหลากหลายวิธีแตกต่างกันออกไป เรามาดูกันครับว่า มีวิธีไหนกันบ้าง 1. ดื่มน้ำเย็น บางครั้งการดื่มน้ำเย็นก็อาจจะช่วยให้ก้างปลาเหล่านั้นหลุดออกไปจากลำคอได้ ในกรณีที่มันปักไม่ลึก หรืออยู่ในซอกที่ไม่ซับซ้อนนัก เคล็ดลับก็คือ ในระหว่างการดื่ม ให้กลั้วคอไปมาในบริเวณที่รู้สึกเจ็บ จากนั้นก็ค่อยกลืนน้ำลงไป 2. ดื่มน้ำมะนาว เนื่องจากมะนาวนั้น มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติช่วยละลายกระดูกเล็กๆ ประเภทก้างปลาได้ แต่ต้องค่อยๆ ดื่มนะครับ แล้วค่อยๆ กลืนให้น้ำมะนาวผ่านไปยังจุดที่ก้างปานั้นปักอยู่ บางคนอาจบ่นว่าวิธีนี้ทำได้ยากเพราะน้ำมะนาวจะมีรสเปรี้ยว แนะนำให้ทาเกลือที่ขอบแก้วครับ จะช่วยให้ดื่มได้ง่ายขึ้น 3. กลืนข้าวคำโตๆ แนะนำให้เป็นข้าวเหนียวเปล่าๆปั้นเป็นก้อนกลม แล้วกินลงไปโดยห้ามเคี้ยวละเอียด เอาแค่พอจะกลืนผ่านลำคอไปได้ เมื่อข้าวเหนียวผ่านช่องลำคอไปแล้ว จะช่วยทำให้ก้างปลาที่ติดอยู่ภายในลำคอ หลุดติดข้าวเหนียวลงท้องไปได้ครับ 4. ใช้นิ้วล้วง เมื่อวิธีการที่แนะนำไปทั้งหมดข้างต้นนั้น ยังใช้ไม่ได้ผล แนะนำให้ใช้นิ้วมือพันผ้าสะอาด ล้วงเข้าไปเขี่ยในบริเวณที่รู้สึกว่ามีก้างปลาติดอยู่ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังนะครับ เพราะช่องลำคอของคนเรานั้นเต็มไปด้วยส่วนต่างๆ ที่สำคัญมากมายเลยทีเดียว หากไม่ระวังหรือนิ้วมือไม่สะอาดพออาจทำให้เกิดแผลขึ้น และตามมาด้วยอาการอักเสบภายในช่องปาก …

อ่านต่อ »

รวมวิธีกำจัดกลิ่นตัว กลิ่นเต่า กลิ่นตัวแรงมากทำยังไงดีนะ

ปัญหาอย่างหนึ่งเกี่ยวกับสุขลักษณะที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาอย่างยาวนาน ตั้งแต่กำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ คือเรื่องของกลิ่นตัวครับ ทั้งนี้เป็นเพราะภายในตัวของคนเรานั้น มีส่วนที่เรียกว่า ต่อมเหงื่อ ซึ่งจะคอยขับเหงื่อออกมาตามผิวหนังทั่วร่างกาย และทีนี้ไอ้เจ้าเหงื่อนี่แหละ ถ้าหากว่ามันได้ผสมเข้ากับเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีอยู่ทั่วไปรอบตัวของเราเข้าแล้ว ก็จะส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือที่เรียกกันว่ากลิ่นตัวนั่นเอง ดังนั้นมนุษย์เราจึงมีการคิดค้นวิธีกำจัดกลิ่นตัวที่ว่านี้เรื่อยมา เพราะว่าถ้าหากปล่อยไว้ให้มันหมักหมม นอกจากจะมีกลิ่นที่ใครก็ไม่อยากเข้าใกล้แล้ว ยังจะได้โรคผิวหนังมาเป็นของแถมอีกต่างหากวิธีกำจัดกลิ่นนั้นที่นิยมกันมีดังต่อไปนี้ครับ 1. กำจัดกลิ่นด้วยสารส้ม เป็นวิธีการที่ค้นพบมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วครับ เพราะเจ้าสารส้มที่ว่านี้ มีฤทธิ์กำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ถึง 100% และเป็นเวลานานถึง 24 ชั่วโมง ดังนั้นคนในสมัยโบราณจึงนิยมนำมาใช้ดับกลิ่นตัว โดยวิธีใช้นั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่ถูกเจ้าสารส้มนี่ลงไปยังจุดที่ต้องการกำจัดกลิ่น จากนั้นก็ถูสบู่ทับลงไปแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นกลิ่นที่ไม่ต้องการก็จะหายไป แต่ต้องระวังด้วยนะครับ เพราะสารส้มมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ดังนั้นจึงไม่ควรจะใช้บ่อย เพราะอาจจะทำให้แสบในบริเวณที่ถูได้ 2. สมุนไพรตามธรรมชาติเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่โบราณครับ ซึ่งสมุนไพรที่ว่านั้นก็เป็นพืชหรือตัวยาที่หาได้ทั่วไป อย่างเช่น – ใบพลู โดยวิธีใช้ให้นำมาขยี้กับน้ำ ก่อนจะนำไปทาที่รักแร้หรือบริเวณที่มีกลิ่นหลังจากอาบน้ำ – ใบฝรั่ง ให้นำมาโขลกผลสมกับน้ำ นำไปทาหรือโปะบริเวณที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกและอาบน้ำ กลิ่นที่ไม่ต้องการก็จะหายไป – มะนาว เป็นพืชที่พบเห็นและหาได้ทั่วไปครับ วิธีการนำมาใช้ดับกลิ่นตัวนั้น ให้นำมะนาวมาผ่าซีก แล้วทาบริเวณที่ต้องการกำจัดกลิ่น จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด – มะขามเปียก นอกจากจะมีฤทธิ์ในการกำจัดกลิ่นแล้ว มะขามเปียกยังช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอันเป็นสาเหตุหนึ่งของการหมักหมมออกไปจากร่างกายอีกด้วย …

อ่านต่อ »
วิธีรักษาส้นเท้าแตก มีสาเหตุ อาการและวิธีแก้อย่างไรบ้าง

วิธีรักษาส้นเท้าแตกแบบง่ายๆ มีสาเหตุ อาการและวิธีแก้อย่างไรบ้าง

ส้นเท้าแตกคืออะไร  สาเหตุเกิดจากอะไรเมื่อเรารู้สาเหตุแล้ว เราก็สามารถแก้ปัญหาได้ จะเห็นได้ว่าส้นเท้าแตกนั้นเป็นปัญหามากสำหรับคนเรา การที่ส้นเท้าแตกเวลาที่ออกงานสังคม จะทำให้เสียความมั่นใจในตนเอง ทำให้คนที่เห็น คิดว่าคุณเป็นคนที่ไม่เอาใจใส่ดูแลรักษาร่างกายของตนเอง ดังนั้น จึงควรตัดปัญหาตั้งเนิ่นครับ วันนี้ผมได้มีเคล็ดลับการแก้ปัญหาส้นเท้าแตก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านที่กำลังมีปัญหาส้นเท้าแตกอยู่ในตอนนี้ครับ ส้นเท้าแตกคืออะไร ส้นเท่าแตกเป็นสภาวะที่หนังกำพร้าบริเวณส้นเท้า แห้งทำให้แตกได้ เพราะขาดความชุ่มชื้น  แตกลายงา ส้นเท้านั้นจะค่อนข้างหนา ส้นเท้านั้นจะรับน้ำหนักของเราตลอดเวลา ยิ่งถ้าเดินมาก ๆ โอกาสที่จะทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่าย ส่วนมากจะเห็นในคนอ้วน มากว่าคนผอม ตลอดทั้งคนที่ไม่ชอบใส่รองเท้า หรือใส่รองเท้าแตะ  รวมถึงกรรมพันธุ์ก็ทำให้ส้นเท้าแตกเช่นเดียว ส้นเท้าแตกมีอาการอย่างไร ในระยะแรกนั้นส้นเท้าจะมีการบวมแดง  เมื่อทั้งไว้นาน ๆ โดยขาดการดูแลรักษา จะเริ่มแตกเป็นรอยเล็ก ๆ และลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ และอาจจะถึงขั้นแตกเป็นรอยเลือด ทำให้แสบและทรมานมากในเวลาเดิน  ดังนั้นควรรีบรักษาตั้งแต่เริ่มต้น อย่าปล่อยทั้งไว้นาน เพราะอาการจะกำเริบหนักขึ้น  เรื่องเล็กๆ น้อย อย่างปล่อยให้เป็นมาก ควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ส้นเท้าแตกเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนเหตุส่วนมากมาจากการใส่รองเท้าแตะ  หรือรองเท้าลักษณะแบบเปิดส้นเท้า จะทำให้เท้าไม่อับชื้น ยิ่งถ้าโดนแสงแดดมากๆ โอกาสที่จะทำให้ส้นเท้าแตกมีเปอร์เซ็นต์เยอะ  คนที่ชอบเดินไปมาด้วยเท้าเปล่า ซึ่งด้วยความแข็งของพื้นและประกอบกับความเย็นที่สัมผัส จึงเป็นเหตุให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าแห้ง ยิ่งถ้าเป็นคนอ้วนที่มีน้ำหนัก ตัวเยอะด้วยแล้วก็จะทำให้ส้นเท้า ได้รับแรงกระแทกมากขึ้น  อีกอย่างหนึ่งการที่ใส่รองเท้าไม่ได้มาตรฐาน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้บริเวณส้นเท้าเกิดการหนาตัว และทำให้แตกได้ง่ายขึ้น …

อ่านต่อ »