หน้าแรก » Insight Tutor (page 22)

Insight Tutor

สงสัยไหม? ทำไมถึงเรียกว่าส้มตำ ประวัติของส้มตำมีความเป็นมาอย่างไร

สงสัยไหม? ทำไมถึงเรียกว่าส้มตำ ประวัติของส้มตำมีความเป็นมาอย่างไร

หลายคนคงกำลังสงสัยว่า “ส้มตำ” อาหารประจำชาติของประเทศไทย ทำไมถึงเรียกว่าส้มตำกันนะ ทั้งๆที่วัตถุดิบก็คือนำมะละกอมาตำ เอ๊ะ หรือว่า..คนคิดเมนูคนแรกชื่อส้ม วันนี้เรามีเกร็ดความรู้มาไขข้อข้องใจให้เพื่อนๆกันค่ะ ทำไมเรียกว่าส้มตำ? อันที่จริงไม่ใช่ชื่อของคนทำหรืออะไรหรอกค่ะ ที่ชื่อส้มตำก็เพราะเป็นการนำคำสองคำมาผสมกันนั่นเอง ก่อนอื่นต้องแยกคำก่อนนะคะ คำแรก “ส้ม” มาจากภาษาท้องถิ่น ที่หมายความว่า รสเปรี้ยว ส่วนคำที่สองคือ “ตำ” หมายความว่า การใช้สากหรือสิ่งของอื่นที่คล้ายคลึงทิ่มลงไปอย่างแรงเรื่อยๆ เมื่อจับทั้งสองคำมารวมร่างกันก็จะได้ความหมายคือ อาหารรสเปรี้ยวที่ทำโดยการตำ นั่นเองค่ะ นอกจากนี้ ส้มตำยังมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นอีกหลายชื่อ เช่น ตำบักหุ่ง, ตำมะละกอ ส้มตำ เป็นการปรุงอาหารโดยมีส่วนประกอบหลักคือการขูดมะละกอออกเป็นเส้นๆใส่ลงไปในครก พร้อมกับใส่วัตถุดิบต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาว กระเทียม มะเขือเทศลูกเล็ก มะเขือเปราะ มะเขือสีดา พริกสด พริกแห้ง เสร็จแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลปี๊บ เติมน้ำปลา มะนาว ตามความชอบ ส่วนประกอบต่างๆเหล่านี้ทำให้ส้มตำมีรสที่เป็นเอกลักษณ์ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด แซ่บนัวถูกใจใครหลายๆคน สำหรับคนไทยในภาคอีสานนิยมกินส้มตำรสเค็มเผ็ด และคนไทยในภาคกลางนิยมกินรสเปรี้ยวหวาน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงที่มักมาคู่กันจนแทบขาดกันไม่ได้อย่าง ปลาดุกย่าง ไก่ย่าง แคบหมู ขนมจีน เส้นหมี่ และผักสด เช่น ผักบุ้ง …

อ่านต่อ »

6 สัญญาณ บอกอาการของคนท้องในระยะแรก

6 สัญญาณ บอกอาการของคนท้องในระยะแรก

การสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์นอกจากสามีภรรยาที่ต้องอยู่ด้วยกันแล้ว ครอบครัวจะสมบูรณ์ครบก็ต่อเมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะลืมตาดูโลก ผู้หญิงคนไหนที่อยู่ในสถานะภรรยา มีครอบครัวที่พร้อม คงกำลังตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน เวลาผ่านไปอาจจะมีอาการบางอย่างมาทำให้คุณผู้หญิงหลายคนสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่? ซึ่งอาการของคนกำลังตั้งครรภ์นั้นค่อนข้างซับซ้อน เพราะว่าแต่ละคนมีอาการที่มากน้อยไม่เท่ากัน แต่อาการที่เกิดขึ้นจะคล้ายๆ กันดังต่อไปนี้ 1. ประจำเดือนขาด เมื่อไข่ของคุณผู้หญิงได้รับการผสมจากอสุจิของคุณผู้ชาย จะมีการฝังตัวของตัวอ่อนที่มดลูกเกิดขึ้น ทำให้ไม่มีประจำเดือนออกมา อาการเริ่มแรกที่คุณผู้หญิงสามารถสังเกตตัวเองได้ก็คือเรื่องของประจำเดือน แม้ขาดหรือว่าเกินกำหนดไปเพียงแค่วันเดียวก็สามารถตรวจสอบได้แล้ว 2. อาการอ่อนเพลีย อยากนอน อยากพักผ่อนตลอดเวลา เมื่อร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยกลไกภายในจะทำให้ร่างกายเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อาการอ่อนเพลียจึงเกิดขึ้นได้เสมอ คุณผู้หญิงจะรู้สึกเมื่อยอย่างบอกไม่ถูก อาจจะนอนมากกว่าปกติ 3. อาการเวียนหัว อาเจียน สังเกตอาการตัวเองได้ง่ายมากจากการรับประทานอาหาร ฮอร์โมนในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนจะรับรู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดใหม่ หรือที่เรียกว่าอาการแพ้ท้องนั่นเอง นอกจากร่างกายจะอ่อนเพลียแล้ว ช่วงนี้ก็ยังสามารถเวียนหัวและเป็นลมได้ง่าย เกิดอาการอาเจียนบ่อย 4. น้ำหนักตัวลด ทุกอย่างในร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงแม้กระทั่งน้ำหนัก ทั้งนี้อาจจะเป็นผลมาจากอาการแพ้ เพราะว่าช่วงเวลาที่แพ้นั้น คุณผู้หญิงจะรับประทานอาหารไม่ค่อยได้มากนัก เหม็นบ้าง กินแล้วจาเจียนออกหมดบ้าง หรือบางคนแม้กระทั่งน้ำเปล่าก็ไม่สามารถดื่มได้ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลตัวเองมากที่สุด 5. หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย อารมณ์ร้อน ฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลงไปจะเกิดอากาคล้ายๆ กับตอนที่กำลังจะมีประจำเดือน จะรู้สึกว่าทุกอย่างไม่ดี หงุดหงิดบ่อยๆ โกรธแบบไม่มีที่มา ซึ่งต้องหมั่นตรวจสอบอารมณ์ตัวเองอยู่บ่อยๆ จะได้รู้ว่าตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่? รวมไปถึงอาการเจ็บคัดเต้านม หรือมีอาการแน่นหน้าอกร่วมด้วยเหมือนตอนที่กำลังจะมีประจำเดือน 6. …

อ่านต่อ »

วิธีแก้หูอื้อ หูดับ เบื้องต้น อาการปวดหูจากการขึ้นลงเครื่องบิน แก้ได้ง่ายๆ

วิธีแก้หูอื้อ หูดับ เบื้องต้น อาการปวดหูจากการขึ้นลงเครื่องบิน แก้ได้ง่ายๆ

ร่างกายของเรา บางครั้งก็เหมือนไม่ใช่ของเรา เพราะบางทีก็เกิดอาการอะไรบางอย่างที่เกินควบคุมซะเหลือเกิน อาการอัตโนมัติอย่างหนึ่งของร่างกายที่น่ารำคาญอย่างหนึ่งคงหนีไม่พ้น อาการหูอื้อนี่ล่ะค่ะ เรามาดูสาเหตุและวิธีแก้หูอื้อกันเลยดีกว่าค่ะ สาเหตุการเกิดอาการหูอื้อ สาเหตุหลักๆ ก็เกิดจากอาการรอบๆ ตัวเราลดความดันอากาศลงกะทันหัน ทำให้ท่อยูสเตเชียนปิด จะเห็นได้ชัดเวลาที่เราขึ้นเครื่องบิน นั่งรถขึ้นดอย หรือแม้กระทั่งเราลงไปดำน้ำ *ท่อยูสเตเชียน (Eustachian tubes) เป็นท่อที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางและโพรงหลังจมูกตรงลำคอ มีหน้าที่ช่วยระบายของเหลวและปรับความดันในหู) แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ เพราะอาการพวกนี้ถึงจะน่ารำคาญ แต่ก็มีวิธีแก้หูอื้อให้หายได้ไม่ยากเลย วิธีแก้หูอื้อเบื้องต้น พยายามเอาอากาศออกจากร่างกายด้วยการหาว ทำไมหาวแล้วหูหายอื้อล่ะ ก็เพราะอากาศภายนอกตัวเรามีความดันลดลง ในขณะที่ความดันอากาศในตัวเรามากขึ้น อากาศก็ดันออกมา การหาวเป็นวิธีการรักษาระดับความดันให้สมดุลวิธีหนึ่งนั่นเอง เคี้ยวหมากฝรั่งหรือทำท่าเคี้ยว วิธีนี้ก็ช่วยได้ เพราะการเคี้ยวของเราก็เป็นวิธีหนึ่งในการลดระดับแรงดันในร่างกายของเรานั่นเองค่ะ บีบจมูกและกลืนน้ำลาย บีบจมูกทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง จากนั้นเอามือที่บีบจมูกออก แล้วกลืนน้ำลายอีก 1 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้ท่อยูสเตเซียนเปิดและปิด แก้อาการหูอื้อได้ นั่งหลังตรง บางครั้งการนั่งหลังงอผิดท่า อาจทำให้เกิดอาการหูอื้อได้ค่ะ ต้องลองปรับท่ากันดูหน่อยล่ะ ฟังเพลงบรรเลงกระตุ้นประสาทการรับฟัง การฟังเพลงบรรเลงในโหมด White Sound เช่น เสียงของคลื่นทะเล เสียงลมพัด เสียงน้ำไหล   ก็สามารถช่วยปลุกประสาทการรับฟังของเราได้ ช่วยทำให้อาหารหูอื้อได้ แถมยังได้ฟังเพลงเพลินๆ อีกด้วยนะเนี่ย …

อ่านต่อ »

9 วิธีลบรอยสักแบบง่ายๆด้วยตัวเอง สักแล้วไม่ถูกใจ แก้ได้ไม่ยาก

9 วิธีลบรอยสักแบบง่ายๆด้วยตัวเอง สักแล้วไม่ถูกใจ แก้ได้ไม่ยาก

แม้ว่าการสักลายสวยๆ จะได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นการสักแบบขาว-ดำ หรือสักแบบสี บางคนสักเพราะความชอบจึงสักเพื่อความสวยงาม แต่บางคนกลับชอบให้มีรอยสักตามตัวเพราะความเชื่อเรื่องหนังเหนียวหรือฟันแทงไม่เข้า สาวรักสาวหลง อยู่ยงคงกระพัน ฯลฯ  ปัจจุบันการมีรอยสักอาจจะมีข้อเสียแฝงอยู่ด้วย โดยเฉพาะตามบริษัทใหญ่ๆ ที่มักจะเข้มงวดในเรื่องนี้ ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่มีรอยสักหลายๆ คน เข้าทำงานไม่ได้ บางคนมีรอยสักมากเกินไป ทำให้พ่อแม่ของแฟนอาจไม่ชอบจนถึงขนาดบอกให้เลิกคบกันไปเลยก็มี นั่นอาจเป็นเพราะค่านิยมแบบเดิมๆ ของคนรุ่นเก่า หรือแม้แต่บางคนที่ไปสักลายสวยๆ แต่กลับเจอช่างที่สักลายออกมาแล้วมีความผิดพลาด เลยทำให้อยากจะหาลายใหม่ๆ มาสักทับ แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตามเรามาดูวิธีลบรอยสักที่ได้รับความนิยมกันดีกว่า วิธีลบรอยสัก ลบรอยสักด้วยยางเม็ดมะม่วงหิมพานต์   การใช้ยางของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นวิธียอดนิยมมากในสมัยก่อน เพียงแค่นำยางของเม็ดมะม่วงฯ มาทาที่บริเวณรอยสัก ซึ่งยางของเม็ดมะม่วงจะทำให้ผิวหนังหลุดลอกออกมา เพราะยางของเม็ดมะม่วงฯ จะทำให้รอยสักเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนจนทำให้ผิวหนังค่อยๆ ร่อนหลุดมาได้ แต่อย่าลืมว่าจะต้องล้างแผลทุกวัน ลบรอยสักด้วยปูนแดง อีกหนึ่งวิธีของความแสบจี๊ดๆ ที่ทั้งใช้ปูนแดงล้วนๆ หรือจะนำปูนแดงมาผสมกับน้ำสบู่ หรือ น้ำมะนาว ตามแต่ว่าจะเลือก แสบแบบไหน  บางคนต้องการให้รอยสักหายเร็วๆ จึงใช้วิธีเปิดแผลด้วยการใช้เข็มจิ้มที่รอยสัก  แล้วจึงใช้น้ำจากปูนแดงที่เตรียมไว้ค่อยๆ ทาพอกเข้าไป บางคนใช้ด่างทับทิม ซึ่งตัวนี้จะมีความเป็นกรดสูงมาก หากไม่รู้ขั้นตอนที่ถูกต้อง อาจทำให้กลายเป็นรอยแผลเป็นจากการไหม้ได้ ลบรอยสักด้วยด่างทับทิม วิธีนี้จะเหมือนกับปูนแดง โดยใช้เข็มจิ้มเพื่อเปิดแผลที่รอยสักก่อน แล้วใช้น้ำด่างทับทิมทาพอก ลบรอยสักด้วยเตารีด วิธีนี้จะต้องใช้ความอดทนสูงมาก เนื่องจากจะเป็นการนำเตารีดที่ใช้รีดผ้าขณะร้อนๆ มาแตะที่ผิวหนังบริเวณที่มีรอบสัก …

อ่านต่อ »

5 วิธีแก้ไขปัญหาขาหนีบดำคล้ำ ทำอย่างไรให้กลับมาขาวสวยเพื่อความมั่นใจ

5 วิธีแก้ไขปัญหาขาหนีบดำคล้ำ ทำอย่างไรให้กลับมาขาวสวยเพื่อความมั่นใจ

ผู้หญิงทุกคนมักจะให้ความสำคัญกับความงามบนเรือนร่างของตัวเองมากเป็นพิเศษ แม้กระทั่งความสวยงามในจุดลับอย่างขาหนีบ ซึ่งเมื่อเกิดรอยด่างดำหรือว่ามีสีที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นมาก็มักจะทำให้สาวๆ หมดความมั่นใจเอาง่ายๆ เลย อาจจะเป็นเพราะว่าบางครั้งเวลาที่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำโชว์เรือนร่างทำให้ไม่มั่นใจ หรืออาจจะเกิดกับชายหนุ่มคนรักที่เมื่อต้องให้ฝ่ายชายเชยชม เลยรู้สึกไม่มั่นใจกับสีที่แปลกไปของขาหนีบ อาการขาหนีบดำ อาจจะมาจากพันธุกรรมสีผิว ซึ่งไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ แต่ถ้าเกิดจากปัจจัยภายนอก อย่างเช่นการเสียดสีมากจนเกินไปของขาทั้งสองข้างก็สามารถทำให้ดำได้ โดยเฉพาะผู้หญิงรูปร่างอ้วนที่มักจะเกิดการเสียดสีที่บริเวณนั้นบ่อยครั้งด้วยเช่นกัน และความอับชื้นที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกางเกงชั้นใน ผ้าอนามัย ก็สามารถทำให้ขาหนีบมีความคล้ำขึ้นได้ง่าย แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถแก้ไขได้ และจะค่อยๆ ทุเลาลง – ลดน้ำหนัก ลดความอ้วนก่อนเป็นอันดับแรก เพราะว่าจะได้ช่วยลดการเสียดสีที่บริเวณขาหนีบด้วย เพราะว่ารูปร่างที่อ้วนจะทำให้มีเนื้อช่วงต้นขาและขาหนีบเยอะ เวลาเดินก็มักจะเสียดสีกันอยู่บ่อยๆ – หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดๆ กางเกงชั้นในที่รัดๆ และอับชื้น เพราะเสื้อผ้าจะทำให้เราเสียดสีและสัมผัสมันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขาหนีบดำโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว หรือไม่ควรที่จะใส่กางเกงชั้นในแบบรัดๆ ในช่วงตอนนอน หรือไม่ควรใส่เลย ส่วนใหญ่แล้วตอนนอนก็ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ให้ใส่เสื้อผ้าที่โปร่งและสบายจะดีกว่า – ขัดผิวส่วนที่หมองคล้ำเบาๆ อย่าทำรุนแรงมากจนเกินไป ทุกครั้งที่อาบน้ำ ควรจะขัดเบาๆ ทุกครั้งเพื่อเอาเซลล์ผิวที่หมองคล้ำและเสียออกไปให้ได้มากที่สุด หมั่นขัดและสครับเป็นประจำก็สามารถช่วยได้ อย่าลืมว่าต้องขัดเบาๆ เพราะว่าถ้าทำรุนแรงมากเกินไป ผิวหนังบริเวณนั้นอาจจะเกิดอาการอักเสบ แดง และหมองคล้ำลงไปอีก – บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือว่าผลิตภัณฑ์ใดใดที่ช่วยลดความหมองคล้ำลงได้ ทาเป็นประจำทุกวันเช้าและเย็น ความหมองคล้ำก็จะค่อยๆ หายไปในที่สุด สมัยนี้มีครีมลดริ้วรอยลดความหมองคล้ำที่มีขายอยู่ทั่วไป สามารถใช้ได้เลย – รักษากับแพทย์ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ …

อ่านต่อ »